BLUE #sungle
‘omegaverse’
#sungle
R-15
B L U E
“กลับ - บ้าน” ริมฝีปากอิ่มเอ่ยช้าๆ
ทีละคำเพื่อให้ร่างสูงที่อยู่ในสนามบาสอ่านปากตัวเองได้ชัด
อีกฝ่ายพยักหน้ารับก่อนจะส่งลูกบาสในมือให้กับรุ่นพี่ในทีมที่ส่งเสียงโห่แซ็วเสียงดังจนต้องยกนิ้วกลางขึ้นเพื่อตัดรำคาญ
คนตัวเล็กหัวเราะคิกคักก่อนจะยื่นขวดน้ำในมือให้ร่างสูงดื่ม
ตามด้วยผ้าซับเหงื่อผืนเล็ก
“มือไม่ว่างเช็ดให้หน่อย”
เสียงทุ้มจากอีกฝ่ายเอ่ยขึ้นทำเอาร่างเล็กต้องยู่ปาก
วางขวดน้ำแล้วค่อยเช็ดก็ได้มั้ยล่ะ
“ก้มลงมา”
บ่นได้แค่ในใจ
พลางเอ่ยปากสั่งให้คนที่ตัวสูงกว่าก้มลงมา มือเล็กข้างหนึ่งจับผมหน้าม้าสีสว่างของอีกฝ่ายให้เสยขึ้น
ก่อนจะใช้ผ้าเช็ดเหงื่อซับเบาๆ ที่กรอบหน้าหล่อ นัยน์ตาคมเหลือบมองคนตัวเล็กที่กำลังจดจ้องเช็ดหน้าเขาอย่างตั้งใจ
ดูน่ารักน่าหยิกไปอีกแบบ
“หวานโว้ยยยยย”
“เหม็นโว้ยยยยยย”
“มดขึ้นแล้วโว้ยยยย”
ฉากสบตาในตำนานโดนพับเก็บไปเมื่อเสียงโห่ร้องของรุ่นพี่ในทีมบาสตะโกนขึ้น
จง เฉินเล่อ
หลุดยิ้มก่อนจะผละออก
“จีซอง กลับบ้านกัน”
ไม่มีฝ่ามือที่สอดประสาน
ไม่มีการโอบกอดที่ไหล่บาง หรือแม้แต่ซุกหน้าลงกับแผ่นหลังกว้างยามที่ปั่นจักรยาน
เพราะปาร์ค จีซองเป็นผู้ชายที่ไร้ความโรแมนติก
ชอบดูแลแบบห่ามๆ
เช่น การดึงคอเสื้อเวลาเฉินเล่อเดินไปผิดทาง แกล้งยกกระเป๋าเป้ใบหนักของคนตัวเล็กขึ้นแล้วปล่อยลงตอนแรงโน้มถ่วงโลกจนหลังบางๆนั่นเซตาม
ชอบบอกว่าไม่น่ารักทั้งๆ ที่แก้มขาวนั่นน่ากัดเป็นไหนๆ
เหลือบตามองไหล่เล็กที่เดินนำอยู่ด้านหน้า
ให้เหตุผลว่าเดี๋ยวเดินไปชนของข้างทาง
แท้จริงแล้วเพราะเงาของเขามันบังแดดยามเย็นให้ร่างบางได้ทั้งตัว
อย่างน้อยๆก็ไม่ทำให้ผิวขาวๆนั่นเสีย
แต่ลูกคุณหนูช่างดื้อฟังกันที่ไหนล่ะ
ต้องใช้อะไรล่อกว่าจะยอมทำตาม
เมื่อเดินมาถึงรั้วคฤหาสน์
ริมฝีปากอิ่มของคนข้างกายก็เม้มเข้าหากัน นัยน์ตาคมก็ยังเห็นความอ่อนล้าของร่างบาง
“ให้อยู่จนกว่าจะหลับมั้ย”
เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น มองร่างบางที่กำลังชั่งใจอยู่ไม่น้อย
“ไม่เป็นไรหรอก
วันนี้เข้าสนามไม่ใช่เหรอ จีซองไปเถอะ” พูดขึ้นทั้งๆ ที่ไม่ดูสีหน้าตัวเองแม้แต่น้อยว่าตอนนี้กำลังแย่แค่ไหน
“กว่ากูจะแข่งมึงก็คงหลับแล้ว
เดี๋ยวอยู่เป็นเพื่อน”
“อะ เอางั้นเหรอ”
ร่างสูงไม่ตอบแต่ส่งมือไปผลักบานประตูรั้ว
ก่อนจะดึงคนตัวเล็กเข้ามาในเขตของคฤหาสน์หลังใหญ่ เพราะพื้นที่กว้างทำให้ทั้งสองต้องเดินเข้าตัวบ้านไปอีกสักพัก
ฝ่ามือหนาไม่ได้ปล่อยออกจากข้อมือเล็ก
เฉินเล่ออมยิ้ม ก่อนจะเป็นฝ่ายกระชับฝ่ามือใหญ่นั่นให้สอดเข้ากับร่องนิ้วเล็กของตัวเอง
จีซองไม่ได้เป็นเด็กดี
ไม่ได้เรียนเก่งมากมาย ไม่ได้เป็นลูกคุณหนู(ในส่วนของการใช้ชีวิต)
ในขณะที่เฉินเล่อเป็นเด็กดี เรียนเก่ง เป็นลูกคุณหนู
ดูไม่น่าสนิทกันได้แต่กันนั่นแหละ อยู่ด้วยกัน 2 คนมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
พ่อแม่ทั้งคู่ต่างก็รู้จักกัน
จึงยอมปล่อยให้เฉินเล่อออกนอกลู่นอกทางได้ถ้าหากมีจีซองอยู่ด้วย
เพราะจีซองรู้ดีว่าเฉินเล่อเป็นอะไรจึงไม่เคยให้ร่างบางคลาดสายตา
แม่บ้านบางส่วนออกมาต้อนรับด้วยรอยยิ้ม
เฉินเล่อกลายเป็นฝ่ายเดินนำ พาร่างสูงขึ้นไปยังห้องนอนกว้าง แต่สายตาของร่างสูงกลับกวาดโดยรอบ
ก่อนจะหยุดลงที่แม่บ้าน ที่ส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้ม
‘มัน’ไม่อยู่งั้นเหรอ
ใบหน้าคมพยักรับ
ก่อนจะหันไปมองคนตัวเล็กที่กำลังเปิดเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง
จีซองนั่งลงที่โซฟารับรอง
ที่ประจำของร่างสูง มองเฉินเล่อที่เตรียมเสื้อผ้าเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำ
ก่อนจะออกมาเป็นชุดสบายๆ แทนที่จะเป็นชุดนักเรียน
“เปลี่ยนชุดมั้ย”
“ไม่อ่ะ
วันนี้เอาฮู้ดมา”
เพราะเป็นนักแข่ง
ดังนั้นสิ่งที่ควรเลี่ยงมากที่สุดคือการลงแข่งทั้งชุดนักเรียน
“วันนี้แข่งรถอะไร”
ถามพลางใช้ปลายเท้าดันประตูบานกว้างให้ปิดลงหลังจากรับขนมทานเล่นมาจากแม่บ้าน
ร่างสูงเหลือบตามองคนตัวเล็กก่อนจะดึงเน็คไทออกจากคออย่างลวกๆ
“ไม่รู้ แล้วแต่เจโน่”
เหลือแค่เสื้อเชิ้ตที่ปักตราโรงเรียน
หยิบเสื้อฮู้ดสีดำขึ้นมาสวม ก่อนที่สมาทโฟนเครื่องหรูจะดังขึ้น
แปลกใจไม่น้อยที่เห็นพี่ชายตัวเองโทรมาตั้งแต่ตอนนี้
“ว่า” กรอกเสียงลงไปขณะก้มมองเฉินเล่อหยิบการบ้านมาวางบนโต๊ะรับรอง
[อยู่ไหน] ปลายสายถามขึ้น จากน้ำเสียงดูรีบร้อนไม่น้อย
“บ้านเฉินเล่อ”
ตอบพลางหยิบคุ้กกี้ขึ้นมากิน
[วันนี้พี่มันลงแข่ง]
“ห้ะ?”
คนตัวเล็กเงยหน้ามองร่างสูง
ก่อนที่จีซองจะหลบสายตาไป
“หมายความว่าไง”
[วันนี้พี่มันลงแข่ง
แต่ยังไม่มีของเดิมพันมาเลย กูเลยจะโทรมาเช็คว่าเฉินเล่อยังอยู่กับมึงมั้ย]
“อยู่ ตอนนี้อยู่บ้าน”
[งั้นมึงพาเฉินเล่อมาที่สนาม
พวกกูจะได้ช่วยดู]
“ทำไมวะเฮีย มีข่าว?”
[เออ
มีคนบอกว่ามันเงินหมด วันนี้อาจจะได้น้องชายมันแทน]
“เหี้ยเอ้ย”
[เพราะงั้นมึงรีบพาเฉินเล่อมา
เดี๋ยวกูเปิดห้องรับรองไว้ให้ แล้วช่วงนี้พาน้องไปอยู่กับมึงก่อน]
“เออ เดี๋ยวผมรีบไป”
ฝ่ามือหน้าเสยกลุ่มผมสีสว่างของตัวเองด้วยความโมโห
ก่อนจะหันไปมองใบหน้าใสที่กำลังมองเขามาด้วยสีหน้ากังวลไม่น้อย
“มีอะไรรึเปล่าจีซอง”
“ไปเก็บของไปอยู่กับกู”
กระตุกข้อมือเล็กให้ลุกขึ้นด้วยความรวดเร็ว
แต่ร่างบางก็ยังรั้งไว้ด้วยแรงที่มี
“ดะ เดี๋ยวสิอธิบายก่อน!”
ร่างสูงถอดหายใจเพื่อระงับความโมโห
“พี่มึงมาลงแข่งคืนนี้
และมันยังไม่มีของมาเดิมพัน สายเจโน่บอกว่าวันนี้มันจะเอามึงมาเป็นของเดิมพัน”
สิ้นเสียงทุ้มคนตัวเล็กก็ชะงัก
“ขะ
เขาไม่กล้าทำถึงขนาดนั้นหรอก”
“มึงอย่าประมาทเฉินเล่อ
คิดว่ากูไม่รู้เรื่องที่มันทำร้ายร่างกายมึงเหรอ”
ร่างสูงมองรอยช้ำที่ปรากฏอยู่ที่ใต้ท้องแขนของร่างบาง
วันนี้มันเป็นสีเขียวจาง แต่ก่อนหน้านั้นเป็นเป็นสีม่วงคล้ำขนาดใหญ่นอกเหนือจากนี้ก็ยังมีร่องรอยสีแดงที่ท่อนขาเล็ก
และมุมปากของร่างบางที่ยังตกสะเก็ด จีซองโมโหจนเกือบจะซัดพี่ชายของเฉินเล่อ
แต่ร่างบางก็ยังกอดเขาไว้พร้อมน้ำตา
เพราะคำว่าครอบครัวมันค้ำคอ
แต่มันเห็นมึงเป็นครอบครัวมั้ยล่ะเฉินเล่อ
“จีซอง...”
“กูบอกแล้วใช่มั้ยว่ากูจะดูแลมึง” ดึงร่างเล็กมากอดจนจมหายเข้าไปในอกกว้าง
จีซองโตขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เฉินเล่อยังไม่เคยรู้ ใบหน้าคมกดลงที่ลาดไหล่เล็ก
สูดดมกลิ่นหอมที่เป็นของเขามาตั้งนาน และเขาจะไม่ปล่อยไปให้เป็นของใคร
“จนกว่าพ่อมึงจะกลับมาจากจีน
กูถึงจะให้มึงกลับบ้าน เข้าใจมั้ย”
“อะ อื้อ”
“ไปเก็บของกัน”
จูบซับลงที่ขมับบาง
ก่อนจะคลายอ้อมแขนลงให้เฉินเล่อไปเก็บของใช้จำเป็น
นัยน์ตาคมมองต้นคอขาวของร่างบางที่ระด้วยกลุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนบางเบา
ทั้งๆ
ที่กลิ่นของคนทั้งคู่เกือบจะผสมกันได้แล้วแต่ก็ยังไม่สมบูรณ์เพราะเขายังไม่ได้ทำให้เฉินเล่อเป็นของเขา
อย่างสมบูรณ์
ความลับที่เขากุมไว้ก็คือ
จงเฉินเล่อ เป็นโอเมก้าของเขาไง
B L U E
เนื่องจากยังเป็นช่วงเย็นค่อนไปทางหัวค่ำทำให้คนยังไม่เต็มสนามเสียเท่าไหร่
รถหรูของบ้านเฉินเล่อถูกจีซองยืมมาใช้ พาเข้าไปจอดในโซน VVIP เพราะเป็นสถานที่อันตรายสำหรับเฉินเล่อ
ร่างสูงจำเป็นต้องจับมือเล็กให้เดินตามอยู่ตลอดเวลา
เสื้อฮู้ดสีดำที่ควรจะอยู่บนตัวของร่างสูงตอนนี้ก็มาอยู่กับร่างเล็กแทน
เมื่อต้องเดินผ่านผู้คนที่มากขึ้นทำให้
ต้องดึงคนตัวเล็กมาใกล้
เปลี่ยนไปวางแขนบนไหล่บาง พาเดินขึ้นไปยังห้องรับรองที่พี่ชายตนเปิดไว้ให้
ห้องกว้างที่มีบาร์ขนาดกลาง
กำแพงข้างหนึ่งประดับเป็นกระจกล้วนเพื่อให้มองเห็นสนามแข่งรถขนาดใหญ่
“มาแล้วเหรอ” เจโน่ที่นั่งรออยู่ในห้องเอ่ยขึ้น คนตัวเล็กโค้งกายให้เล็กน้อย ก่อนจะถูกเชื้อเชิญให้นั่งลงที่โซฟาฝั่งตรงข้าม
“รอก่อน มาร์คกำลังมา
ดื่มไรก่อนมั้ยเฉินเล่อ”
ร่างบางส่วนหน้าพลางยกยิ้ม
มองเห็นจีซองที่ลุกขึ้นไปคุยโทรศัพท์อยู่ที่มุมห้อง
เขาได้กลิ่นความกังวลออกมาจากกายของร่างสูง
แต่ยังไม่ทันเอ่ยถามอะไรบานประตูก็เปิดออกอีกครั้ง
“โทษที่ช้า
รถจากโรงเรียนไอแฮชมานี่แม่งโคตรติด” มาร์คในชุดสูทของรองประธานบริษัทเดินเข้ามาในห้องรับรองพร้อมกับใครอีกคนที่พึ่งไปรับมา
“ทำบ่น” รับเสื้อสูทของอีกฝ่ายมาถือ ก่อนจะใช้เป็นอาวุธในการฟาดไปที่ร่างของมาร์ค
จีซองกดวางสายโทรศัพท์ก่อนจะทรุดกายลงข้างเฉินเล่อ
ใบหน้าหวานหันไปมอง ก่อนจะเอ่ยถามขึ้น
“โอเคมั้ย”
“ไม่เลย”
ซบลงกับไหล่เล็ก
ก่อนจะผงกขึ้นเมื่อพี่ชายคนสนิทอย่างมาร์คเอ่ยขึ้น
“ฝั่งนู้นเป็นไงบ้าง”
เจ้าของผมสีซีดถอนหายใจก่อนจะเอ่ยขึ้นพลางส่งสมาทโฟนเครื่องหรูให้อีกฝ่ายดูรูปจากเหตุการณ์จริงที่
กำลังเกิดขึ้นบริเวณโซนห้องพักของผู้เข้าแข่งขัน
“อาละวาดหนัก
บอกว่าผมไปขโมยของเดิมพันมันมา” ตอบหน้าตายพลางพิงหัวไปกับไหล่เล็กอีกครั้ง
เจโน่หลุดยิ้ม
“ก็ขโมยมาจริงๆนี่”
“เฉินเล่อเป็นของผมอยู่แล้ว”
“อ่า
เด็กนี่มันแก่แดดชะมัด”
มาร์คถึงกับเอนกายไปกับโซฟาทันทีที่จีซองพูดจบ
“งั้นเดี๋ยวให้แฮชดูแลเฉินเล่อที่นี่
กูจะเพิ่มการ์ดหน้าห้องให้ เผื่อมันเล่นสกปรก” เจโน่เอ่ย
แต่แฮชานก็พูดขึ้นต่อ
“ทำไมไม่เอาเฉินเล่อไปอยู่คอนโดจีซองเลยวะ”
“อันตรายเกินไป
ไม่มีใครเฝ้า อย่าลืมว่าวันนี้จีซองมันก็แข่ง” มาร์คเสริม
ฝ่ามือหนาเลื่อนมากุมมือเล็กไว้
เฉินเล่อกำลังกลัว คนตัวเล็กสบตาเขานิ่ง ดูอ่อนล้าเหลือเกิน
“กูไม่ปล่อยมึงไปง่ายๆหรอก
เลิกทำหน้าโง่แบบนั้นสักที”
มองค้อนร่างสูงที่แหย่เย้าไม่ดูเวลา
ก่อนที่ทุกคนจะเดินออกจากห้องไปโดยมีฝ่ามือหนาที่ขยี้กลุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนแผ่วเบาแล้วละออก
ประตูบานกว้างปิดสนิทลงแล้ว
เหลือแค่แฮชานกับเฉินเล่อที่นั่งอยู่ด้วยกัน
“ดื่มอะไรมั้ย
เดี๋ยวพี่ชงให้” ด้วยความที่ทำอาชีพเป็นคุณครูฝึกสอนอยู่ในโรงเรียนเด็กเล็กทำให้แฮชานมักจะสนิทกับเด็กๆไ
ด้ง่าย
“มีนมปั่นใส่คอนเฟลกมั้ยครับ”
“ย่าส์ จงเฉินเล่อ”
“ล้อเล่นครับ
น้ำอัดลมปกติก็ได้ครับ”
ร่างเล็กระบายรอยยิ้ม
ก่อนจะรับแก้วน้ำอัดลมมาจากมือแฮชาน ร่างโปร่งเดินอ้อมมานั่งที่โซฟาอีกครั้ง
แต่มีขนมติดมือมาด้วย
“เป็นอะไรรึเปล่า”
ร่างโปร่งถามขึ้น เมื่อเห็นเด็กน้อยนั่งนิ่งมาได้สักพักใหญ่
“ผมทำพวกพี่ลำบากรึเปล่าครับ”
เฉินเล่อถาม ในใจต่างรู้สึกผิดที่ทำให้ทุกคนต้องมากังวลเรื่องที่จะเกิดขึ้นกับเขา
“ไม่เลยเฉินเล่อ...”
ฝ่ามือของแฮชานวางลงบนกลุ่มผมสีน้ำตาลของคนเป็นน้อง “เฉินเล่อน่ะ เป็นคนในครอบครัวเราแล้วนะ
เพราะงั้นครอบครัวน่ะถ้ามีอะไรก็ต้องช่วยเหลือกัน”
“…”
“จีซองเป็นน้องเล็กของครอบครัว
มันรักใคร พวกพี่ก็รักคนนั้นไม่ต่างจากมันหรอก เพราะงั้นอย่าคิดมากเลยนะ”
ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่น
กลั้นน้ำตาที่เอ่อคลอออกมาไว้อย่างยากลำบาก
“เป็นกำลังใจให้มันชนะการแข่งขันเถอะ
จีซองมันรักเฉินเล่อมากกว่าที่เฉินเล่อคิดไว้อีกนะ”
B L U E
เพราะการเจรจาด้วยปากไม่สำเร็จ
ทำให้ต้องเจรจาด้วยกำลัง มุมปากของร่างสูงจึงมีรอยช้ำจางๆ จนโดนไล่มาสงบสติอารมณ์ในห้องพักผู้เข้าแข่งขัน
บานประตูสีทึบถูกเปิดออก
จีซองถอนหายใจ
“ตอนนี้เฉินเล่ออยู่ไหน”
“อยู่นี่ไง”
“มึง...”
เสียงหวานคุ้นหู
พร้อมกับร่างเล็กที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า ยังสวมเสื้อฮู้ดที่เต็มไปด้วยกลิ่นกายของจีซองเช่นเดิม
ในมือเล็กๆ ที่โผล่ออกมาจากแขนเสื้อมีหลอดยาทาแก้ฟกช้ำ เขายกยิ้ม
ก่อนจะยู่หน้าเมื่อโดนเสียงหวานเอ็ด
“เดี๋ยวนี้ชอบใช้กำลังเหรอ”
“เปล่า”
“แล้วแผลนี่มาได้ไง”
“โอ้ย...เบาๆดิ”
“มาต่อยพี่เราก่อนอีก”
“ก็พี่มึงปากหมา”
“ต่อยไปแล้วเขายอมเปลี่ยนของเดิมพันมั้ยล่ะ”
“…” ร่างสูงเม้มปาก
เหลือบมองร่างเล็กที่เชยคางเขาขึ้น ก่อนที่เนื้อยาเย็นๆจะถูกแต้มลงมาอย่างแผ่วเบา
“ต่อให้จีซองจะชนะหรือไม่ชนะยังไงเราก็เป็นของจีซองอยู่แล้ว”
เหมือนความกังวลในใจสลายไปได้เพียงลมปากหวาน
“ปากหวานว่ะ”
“แข่งให้เสร็จก่อนค่อยชม”
“แข่งเสร็จแล้วจะชิม”
“เพ้อเจ้อ...”
“โอ้ย!”
ร่างบอบบางโดนดึงตัวให้มาอยู่บนเวทีเนื่องจากเป็นของเดิมพัน
ขาเล็กก้าวสั่นๆ
ถึงแม้ว่าทุกคนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอย่างไรเสียจีซองก็ต้องชนะ
แต่เขาก็อดกังวลไม่ได้อยู่ดี
ถ้าหากจีซองแพ้
เขาไม่ได้เสียใจที่ตัวเองจะไม่ได้กลับไปกับร่างสูง
แต่จะเสียใจที่จีซองต้องเสียรถของตัวเองไป
เสียงกระหึ่มของเครื่องยนต์จากแรงสูบช่วงล่าง
จังหวะการเผาไหม้ที่เสถียรสมกับเป็นรถแข่งราคาแพง
ทำนองเพลงที่เร้าใจพร้อมกับเสียงเชียร์ของผู้ชม 2 ข้างสนาม การแข่งขัน 2 คู่แรกผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
มาสู่คู่ที่ 3 คือจีซองและพี่ชายของเฉินเล่อ
เหลือบมองร่างเล็กที่ตอนนี้กำลังเดินลงมาข้างสนาม
สบตากันเพียงชั่วครู่ ก่อนที่ร่างสูงจะละมาจดจ้องที่สัญญาณไฟ
แต่เสียงเครื่องยนต์คันข้างๆ
ที่มันดังจนเขานึกรำคาญอยากให้การแข่งขันนี้มันจบไปเสียสักที
ใครกันแน่ที่ไม่รู้จักโต
‘ถ้ามึงเก่งจริงก็มาแข่งกับกูดิวะ
มาแข่งกับกูแล้วเอาไอเด็กนั่นไปดิ ไม่ใช่มาขโมยของเดิมพันของชาวบ้านไป’
น้ำเสียงยียวนที่เขาได้ยินตอนนั้นทำให้ความอดทนของเขาหมดลง
จีซองใส่ไม่ยั้ง แล้วบอกให้เจโน่ไปแข่งคู่สุดท้ายแทนตน
แล้วจีซองจะแข่งคู่รองสุดท้ายแทน
เพราะความโมโหแท้ๆ
ที่ทำให้จีซองต้องมาแข่งกับเด็กอมมือ
เสียงพิธีกรของสนามยังเร้าใจอยู่เสมอ
ร่างสูงถอนหายใจ ปลายเท้าเหยียบค้างไปที่คันเร่ง ผ่อน
และเหยียบหนักสลับกันไปเรื่อยๆ
พยายามสงบสติอารมณ์ตัวเองให้นิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฟังเสียงเครื่องยนต์เดิน
เสียงล้อรถที่บดเบียดกับพื้นถนน
“จีซองมันเอาจริงแล้ว”
เสียงมาร์คเอ่ยขึ้น พร้อมกับเจโน่ที่กำลังใช้นิ้วมือนวดขมับ แล้วพึมพำออกมาแผ่วเบา
“ไม่ต้องแข่งก็รู้แล้วว่าชนะ”
3
2
1
GO!!
เปลี่ยนเกียร์ด้วยความรวดเร็วและปลายเท้าเปลี่ยนเป็นเหยียบคันเร่งจนเข็มวัดรอบเครื่องขึ้นมาเป็นเลขที่สูงขึ้นในระยะเวลาอันสั้น
มือเล็กยกขึ้นป้องปาก
เขาไม่เคยเจอจีซองในโหมดนี้แม้แต่น้อย ไม่สิ เรียกว่าไม่เคยเจอเลยมากกว่า รถของจีซองนำไปแล้ว
1 ช่วงตัว แต่ก็ยังไม่ชะล่าใจ สบโอกาสเบี่ยงตัวรถขึ้นแซงหน้าทันที
ก่อนจะเพิ่มความเร็วสูงขึ้นไปอีก
แทบจะไม่ต้องใส่ทริกลงไปในการแข่งขัน
เพราะแค่ตัวรถก็คนละระดับกันแล้ว
“มันออมแรง” แฮชานพูดขึ้น
“ออมแรงเหรอครับ”
เสียงหวานเอ่ยถามแผ่วเบา
ออมแรงตรงไหน
การแข่งขันนี่ก็ดูจริงจังจะตาย
“มีแค่พี่ของเฉินเล่อนั่นแหละที่จริงจัง
แต่จีซองตอนนี้เหมือนขับรถชมวิวมากกว่า
ให้เดาว่าในรถก็น่าจะเปิดเพลงโปรดของมันอยู่ด้วย” เจโน่เอ่ยพร้อมรอยยิ้ม
“ไม่ต้องดูแล้ว
ขึ้นไปรอมันที่ห้องรับรองเถอะ” ยกแก้วน้ำหวานให้น้องชายตัวเล็ก
ก่อนที่แฮชานจะเดินนำเฉินเล่อขึ้นไปยังห้องรับรอง
ตามด้วยมาร์คที่เดินประกบด้านหลัง
เป็นไปตามคาดจีซองชนะได้อย่างสบาย
แถมภายในรถก็ยังเป็นเสียงเพลงดังกระหึ่ม
เขาไม่ได้จอดรอเพื่อรับรางวัล
แค่ชะลอแล้วเปิดหน้าต่างแท็กมือกับรุ่นพี่ที่รู้จักก่อนจะวนรถไปยังโรงจอดรถทันที
ก่อนจะโทรให้พวกพี่ๆ ที่อยู่ข้างบนพาคนของเขาลงมาเพื่อกลับไปพักผ่อนสักที
เพราะมันก็ใกล้จะถึงเวลาเข้านอนของเฉินเล่อแล้ว
“จะกินอะไรก่อนมั้ย”
จีซองถามขึ้นขณะออกตัวรถ
ตอนนี้ย้ายคันมาเป็นรถของบ้านเฉินเล่อแทน ซึ่งจีซองก็ยังเป็นคนขับเหมือนเดิม
“เบอร์เกอร์ก็ได้”
คนตัวเล็กตอบ
ใบหน้าคมพยักรับ
รถหรูเคลื่อนออกไปอย่างไม่เร่งรีบ จีซองตอนนี้ดูแตกต่างจากเด็กตีนผีในสนามอย่างสิ้นเชิง
นัยน์ตาเรียวรีเหลือบมองคนข้างกายที่ตอนนี้ดูใจเย็น
ไม่สิ เรียกว่ากลับมาเป็นปกติมากกว่า เสื้อผ้าถูกเปลี่ยนเป็นเสื้อแขนยาวสบายๆ
แทนที่ชุดนักเรียนที่โดนเฉินเล่อพับเก็บเข้ากระเป๋าไปให้
แขนยาวเอื้อมไปรับเบอร์เกอร์สองชุดที่ผ่านทางหน้าต่าง
ส่งให้คนตัวเล็ก ก่อนจะขับรถออกไปทันทีที่ได้รับของครบ
ใช้เวลาไม่นานก็ถึงคอนโดของร่างสูง
ในมือของเฉินเล่อมีแค่ถุงเบอร์เกอร์ของจีซอง ในขณะที่ตัวของจีซองกลับเต็มไปด้วยกระเป๋าเสื้อผ้าของเฉินเล่อ
นิ้วเล็กจัดการแตะคีย์การ์ดเพื่อขึ้นไปยังชั้นห้องพักของร่างสูง
จัดว่าเป็นคอนโดหรู
จีซองอาศัยอยู่คนเดียว นั่นจึงไม่แปลกว่าทำไมถึงได้มีอิสระได้มากขนาดนี้
ครอบครัวอยู่ต่างประเทศ
ไม่ยอมย้ายตามเพราะอยากอยู่กับเฉินเล่อ นั่นคือสิ่งที่เด็กชายจีซองบอกต่อหน้าทั้ง
2 ครอบครัวในวัย 15 ปี จนตอนนี้ก็ผ่านมา 3 ปีแล้ว เขาอายุ 18 และใกล้จะจบมัธยมปลายแล้ว
และเขาก็ยังอยู่กับเฉินเล่อตลอด
ร่างสูงเปิดห้องนอนให้ร่างบางนำของไปจัด
ส่วนตัวเองก็มาจัดการอาบน้ำชำระล้างร่างกายที่เหนื่อยล้ามาตลอดทั้งวัน
ออกมาด้วยชุดกางเกงขายาวและเสื้อสีขาวดูสบายตัว
ผ้าขนหนูผืนเล็กที่ชื้นเพราะซึมซับน้ำวางพาดไว้บนต้นคอ กับในมือที่กำลังถือเบอร์เกอร์
เดินไปวอแวให้ร่างบางที่พึ่งออกมาจากห้องน้ำสนใจ
จนสุดท้ายเฉินเล่อก็ถอนหายใจแล้วดึงร่างสูงไปนั่งที่พื้นหน้าโซฟา
แล้วจับเช็ดผมให้เป็นผู้เป็นคน
“ซน”
ร่างเล็กว่าพลางเพิ่มแรงขยี้จนคนตัวสูงครางต่ำในลำคอเพราะขนมปังกับเนื้อยังเต็มปาก
“จะให้เราอยู่ด้วยจนถึงเมื่อไหร่”
“ตลอดไป”
“อย่าเพ้อเจ้อได้มั้ย”
“บ่นว่ะ”
“นี่!”
“อื้ออ แค่พ่อมึงกลับมา
หรือจนกว่าพี่มึงจะออกไปจากบ้านมึง”
คนตัวสูงเอ่ยพลางกลืนเบอร์เกอร์คำสุดท้าย
ยกน้ำขึ้นดื่ม ก่อนจะถูกเฉินเล่อไล่ไปแปรงฟันจะได้ทายาแก้ช้ำบนใบหน้า
“มานั่งนี่”
คนตัวเล็กชี้ไปที่เตียงหลังกว้าง
ในพื้นที่ข้างกันให้ร่างสูงนั่งลง
“เอ๊ะ”
ส่งเสียงจิ๊จ๊ะในปากเมื่อกลุ่มผมสีสว่างเลื่อนมาวางบนขาขาวๆ
ของร่างเล็กแทน
เปลือกตาของร่างสูงปิดลงทันที
ไม่แม้แต่จะมองใบหน้าหวานที่ขึ้นซับแดงที่ข้างแก้มจางๆ
“เจ็บก็บอกนะ”
“จะเบาลง?”
“จะแรงขึ้นกว่าเดิม”
สิ้นเสียง
นิ้วยาวก็หยิกต้นขาขาวๆไปหนึ่งที จนคนตัวเล็กสะดุ้งเฮือก
ฟาดมือลงที่บ่ากว้างเป็นการตอบแทน
“อย่าซน”
เอ่ยว่า
ก่อนจะใช้ปลายนิ้วแตะเนื้อยาแล้วไล่บนผิวของร่างสูงเบาๆ
ไล่มาจนถึงมุมปากที่เห่อช้ำของร่างสูง
ก้มมองใบหน้าหล่อระยะประชิดแล้วยังรู้สึกอิจฉาไม่หาย
เฉินเล่อรู้จักจีซองตั้งแต่ยังเด็ก ไม่รู้ว่าโตจนหล่อขนาดนี้ได้ยังไง
รู้ตัวอีกทีก็สูงนำเขาไปแล้ว แถมตัวยังใหญ่กว่าอีก
ขยี้กลุ่มผมสีสว่างของร่างสูงเบาๆ
จนอีกฝ่ายลืมตา
“มองอะไร” คนตัวเล็กถามขึ้น จ้องมองนัยน์ตาสีเข้มอมเทาของอีกฝ่าย
“มองเมีย”
“ยังไม่ได้เป็นสักหน่อย”
“อยากเป็นมั้ยล่ะ”
“จีซอง!”
ฝ่ามือเล็กหมายจะตีลงบนไหล่กว้างอีกรอบ
แต่ร่างสูงก็จับไว้ได้ทัน ลุกขึ้นด้วยความรวดเร็ว
ก่อนจะเป็นฝ่ายทาบทับร่างบอบบางลงกับพื้นเตียงกว้างแทน
“นี่!...”
“อยากจูบว่ะ”
“ปากเป็นแผล ไม่เอา
ไม่จูบ”
“จูบได้”
“...ฮื้อออ”
ริมฝีปากหยักได้รูปกดลงบนริมฝีปากอิ่มอย่างไม่รีบร้อน
ค่อยๆบดเบียด ละเลียดชิมอย่างของหวาน
เนื้อกายนุ่มนิ่มของร่างเล็กที่ฝ่ามือหนากำลังลากผ่าน
เอนเอียงใบหน้า
ก่อนจะสอดแขนข้างหนึ่งรองท้ายทอยของร่างบาง รั้งกรอบหน้าหวานให้สูงขึ้น
เพิ่มน้ำหนักในการบดเบียดมากขึ้น
ลิดรอนลมหายใจของร่างเล็กอย่างเชื่องช้า
ให้หอบคราง แล้วค่อยๆ แทรกปลายลิ้น เร่าร้อนมากขึ้น
เผลอไผลยกสองแขนเล็กโอบรอบคอของร่างสูง
ผละออกมากดจูบที่ต้นคอ
จุดต้องห้ามที่ทำให้คนตัวเล็กสะดุ้งเฮือก เกร็งขึ้นอย่างไร้สาเหตุ อาจเพราะอีกฝ่ายเป็นอัลฟ่าที่เก็บตัว
ไม่ค่อยแสดงอำนาจมากมายทั้งๆ ที่สามารถยืนอยู่เหนือใครได้อีกหลายคน
เฉินเล่อชอบจีซอง
ชอบที่จีซองเป็นอัลฟ่าของเขาเพียงผู้เดียว
แต่ไม่เคยใช้ความน่าเกรงขามนั่นเอาเปรียบเขาแม้แต่น้อย
ซ้ำยังยินยอมและตามใจ
ช่วยเฉินเล่อเก็บความลับที่ตัวเองเป็นโอเมก้าเป็นอย่างดี
ยังไม่เคย’กัด’เฉินเล่อเลยสักครั้ง
อดทนเฝ้ารอในวันที่พร้อม
จะไม่ให้เขารักจีซองได้อย่างไร
สถานะไม่มีชื่อเรียก
แต่แหวนเงินบนนิ้วนางข้างขวาของคนทั้งคู่สามารถบ่งบอกความสัมพันธ์ได้เป็นอย่างดี
ผละออกมาจูบซ้ำๆจนริมฝีปากอิ่มเห่อแดง
กดปลายจมูกลงที่ข้างแก้มใส เฉินเล่อครางหวิว ปลายนิ้วยาวที่ลัดเลาะเข้ามาบนผิวกายใต้ร่มผ้าทำให้หลุดเสียงน่าอาย
“เฉินเล่อ”
“...หื้ม”
“ทำไมวันนี้น่าเย”
“นี่!”
ตบดังแปะที่ข้างแก้มของร่างสูง
จีซองหันกลับมาจูบที่ฝ่ามือของร่างบางเบาๆ
“ล้อเล่น แต่คิดจริงๆ”
“เดี๋ยวเถอะ”
“กอดกูหน่อย”
“อื้อออ”
ครางรับก่อนจะใช้สองแขนโอบรอบบ่ากว้าง
จีซองขยับตัวมาที่ต้นคอของเฉินเล่อ ซุกตัวเข้าเซฟโซน พร้อมกับวงแขนยาวที่โอบรอบเอวของคนตัวเล็ก
จีซองชอบทุกอย่างที่เป็นเฉินเล่อ
กลิ่นกายหอมๆของร่างบางที่ผสมกับกลิ่นอัลฟ่าในตัวเขา
เสียงเล็กๆที่มักจะคอยใช้ดึงสติเขาเสมอ
ความสบายใจทุกครั้งที่ได้อยู่ด้วยกัน
แต่ที่เขาชอบมากที่สุด
คือชอบตัวเองเวลาที่ได้อยู่กับเฉินเล่อ
B L U E
Now playing
I Like Me Better – Lauv
เห็นเด็กๆเขารักกันแม่ก็ดีใจ ฮรุก
/กุมใจ
จะตามไปอ่านรีแอคในแท็กนี้นะควัฟ ;__;)/
#อมกซองเล่อ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น