BLUE #sungle



‘omegaverse’

#sungle

R-15




B L U E




            กลับ - บ้านริมฝีปากอิ่มเอ่ยช้าๆ ทีละคำเพื่อให้ร่างสูงที่อยู่ในสนามบาสอ่านปากตัวเองได้ชัด


            อีกฝ่ายพยักหน้ารับก่อนจะส่งลูกบาสในมือให้กับรุ่นพี่ในทีมที่ส่งเสียงโห่แซ็วเสียงดังจนต้องยกนิ้วกลางขึ้นเพื่อตัดรำคาญ


            คนตัวเล็กหัวเราะคิกคักก่อนจะยื่นขวดน้ำในมือให้ร่างสูงดื่ม ตามด้วยผ้าซับเหงื่อผืนเล็ก


            มือไม่ว่างเช็ดให้หน่อย


            เสียงทุ้มจากอีกฝ่ายเอ่ยขึ้นทำเอาร่างเล็กต้องยู่ปาก


            วางขวดน้ำแล้วค่อยเช็ดก็ได้มั้ยล่ะ


            ก้มลงมา


            บ่นได้แค่ในใจ พลางเอ่ยปากสั่งให้คนที่ตัวสูงกว่าก้มลงมา มือเล็กข้างหนึ่งจับผมหน้าม้าสีสว่างของอีกฝ่ายให้เสยขึ้น ก่อนจะใช้ผ้าเช็ดเหงื่อซับเบาๆ ที่กรอบหน้าหล่อ นัยน์ตาคมเหลือบมองคนตัวเล็กที่กำลังจดจ้องเช็ดหน้าเขาอย่างตั้งใจ ดูน่ารักน่าหยิกไปอีกแบบ


            หวานโว้ยยยยย

            เหม็นโว้ยยยยยย

            มดขึ้นแล้วโว้ยยยย


            ฉากสบตาในตำนานโดนพับเก็บไปเมื่อเสียงโห่ร้องของรุ่นพี่ในทีมบาสตะโกนขึ้น


            จง เฉินเล่อ หลุดยิ้มก่อนจะผละออก


            จีซอง กลับบ้านกัน



           
            ไม่มีฝ่ามือที่สอดประสาน ไม่มีการโอบกอดที่ไหล่บาง หรือแม้แต่ซุกหน้าลงกับแผ่นหลังกว้างยามที่ปั่นจักรยาน


             เพราะปาร์ค จีซองเป็นผู้ชายที่ไร้ความโรแมนติก


            ชอบดูแลแบบห่ามๆ เช่น การดึงคอเสื้อเวลาเฉินเล่อเดินไปผิดทาง แกล้งยกกระเป๋าเป้ใบหนักของคนตัวเล็กขึ้นแล้วปล่อยลงตอนแรงโน้มถ่วงโลกจนหลังบางๆนั่นเซตาม ชอบบอกว่าไม่น่ารักทั้งๆ ที่แก้มขาวนั่นน่ากัดเป็นไหนๆ


            เหลือบตามองไหล่เล็กที่เดินนำอยู่ด้านหน้า ให้เหตุผลว่าเดี๋ยวเดินไปชนของข้างทาง แท้จริงแล้วเพราะเงาของเขามันบังแดดยามเย็นให้ร่างบางได้ทั้งตัว


            อย่างน้อยๆก็ไม่ทำให้ผิวขาวๆนั่นเสีย


            แต่ลูกคุณหนูช่างดื้อฟังกันที่ไหนล่ะ ต้องใช้อะไรล่อกว่าจะยอมทำตาม


            เมื่อเดินมาถึงรั้วคฤหาสน์ ริมฝีปากอิ่มของคนข้างกายก็เม้มเข้าหากัน นัยน์ตาคมก็ยังเห็นความอ่อนล้าของร่างบาง


            ให้อยู่จนกว่าจะหลับมั้ยเสียงทุ้มเอ่ยขึ้น มองร่างบางที่กำลังชั่งใจอยู่ไม่น้อย

            ไม่เป็นไรหรอก วันนี้เข้าสนามไม่ใช่เหรอ จีซองไปเถอะพูดขึ้นทั้งๆ ที่ไม่ดูสีหน้าตัวเองแม้แต่น้อยว่าตอนนี้กำลังแย่แค่ไหน

            กว่ากูจะแข่งมึงก็คงหลับแล้ว เดี๋ยวอยู่เป็นเพื่อน

            อะ เอางั้นเหรอ


            ร่างสูงไม่ตอบแต่ส่งมือไปผลักบานประตูรั้ว ก่อนจะดึงคนตัวเล็กเข้ามาในเขตของคฤหาสน์หลังใหญ่ เพราะพื้นที่กว้างทำให้ทั้งสองต้องเดินเข้าตัวบ้านไปอีกสักพัก


            ฝ่ามือหนาไม่ได้ปล่อยออกจากข้อมือเล็ก เฉินเล่ออมยิ้ม ก่อนจะเป็นฝ่ายกระชับฝ่ามือใหญ่นั่นให้สอดเข้ากับร่องนิ้วเล็กของตัวเอง


            จีซองไม่ได้เป็นเด็กดี ไม่ได้เรียนเก่งมากมาย ไม่ได้เป็นลูกคุณหนู(ในส่วนของการใช้ชีวิต) ในขณะที่เฉินเล่อเป็นเด็กดี เรียนเก่ง เป็นลูกคุณหนู ดูไม่น่าสนิทกันได้แต่กันนั่นแหละ อยู่ด้วยกัน 2 คนมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว พ่อแม่ทั้งคู่ต่างก็รู้จักกัน จึงยอมปล่อยให้เฉินเล่อออกนอกลู่นอกทางได้ถ้าหากมีจีซองอยู่ด้วย


            เพราะจีซองรู้ดีว่าเฉินเล่อเป็นอะไรจึงไม่เคยให้ร่างบางคลาดสายตา


            แม่บ้านบางส่วนออกมาต้อนรับด้วยรอยยิ้ม เฉินเล่อกลายเป็นฝ่ายเดินนำ พาร่างสูงขึ้นไปยังห้องนอนกว้าง แต่สายตาของร่างสูงกลับกวาดโดยรอบ ก่อนจะหยุดลงที่แม่บ้าน ที่ส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้ม


            มันไม่อยู่งั้นเหรอ


            ใบหน้าคมพยักรับ ก่อนจะหันไปมองคนตัวเล็กที่กำลังเปิดเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง


            จีซองนั่งลงที่โซฟารับรอง ที่ประจำของร่างสูง มองเฉินเล่อที่เตรียมเสื้อผ้าเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำ ก่อนจะออกมาเป็นชุดสบายๆ แทนที่จะเป็นชุดนักเรียน


            เปลี่ยนชุดมั้ย

            ไม่อ่ะ วันนี้เอาฮู้ดมา


            เพราะเป็นนักแข่ง ดังนั้นสิ่งที่ควรเลี่ยงมากที่สุดคือการลงแข่งทั้งชุดนักเรียน


            วันนี้แข่งรถอะไร


            ถามพลางใช้ปลายเท้าดันประตูบานกว้างให้ปิดลงหลังจากรับขนมทานเล่นมาจากแม่บ้าน


            ร่างสูงเหลือบตามองคนตัวเล็กก่อนจะดึงเน็คไทออกจากคออย่างลวกๆ


            ไม่รู้ แล้วแต่เจโน่


            เหลือแค่เสื้อเชิ้ตที่ปักตราโรงเรียน หยิบเสื้อฮู้ดสีดำขึ้นมาสวม ก่อนที่สมาทโฟนเครื่องหรูจะดังขึ้น แปลกใจไม่น้อยที่เห็นพี่ชายตัวเองโทรมาตั้งแต่ตอนนี้


            ว่ากรอกเสียงลงไปขณะก้มมองเฉินเล่อหยิบการบ้านมาวางบนโต๊ะรับรอง

            [อยู่ไหน] ปลายสายถามขึ้น จากน้ำเสียงดูรีบร้อนไม่น้อย

            บ้านเฉินเล่อตอบพลางหยิบคุ้กกี้ขึ้นมากิน

            [วันนี้พี่มันลงแข่ง]

            ห้ะ?


            คนตัวเล็กเงยหน้ามองร่างสูง ก่อนที่จีซองจะหลบสายตาไป


            หมายความว่าไง

            [วันนี้พี่มันลงแข่ง แต่ยังไม่มีของเดิมพันมาเลย กูเลยจะโทรมาเช็คว่าเฉินเล่อยังอยู่กับมึงมั้ย]

            อยู่ ตอนนี้อยู่บ้าน

            [งั้นมึงพาเฉินเล่อมาที่สนาม พวกกูจะได้ช่วยดู]

            ทำไมวะเฮีย มีข่าว?

            [เออ มีคนบอกว่ามันเงินหมด วันนี้อาจจะได้น้องชายมันแทน]

            เหี้ยเอ้ย

            [เพราะงั้นมึงรีบพาเฉินเล่อมา เดี๋ยวกูเปิดห้องรับรองไว้ให้ แล้วช่วงนี้พาน้องไปอยู่กับมึงก่อน]

            เออ เดี๋ยวผมรีบไป


            ฝ่ามือหน้าเสยกลุ่มผมสีสว่างของตัวเองด้วยความโมโห ก่อนจะหันไปมองใบหน้าใสที่กำลังมองเขามาด้วยสีหน้ากังวลไม่น้อย


            มีอะไรรึเปล่าจีซอง

            ไปเก็บของไปอยู่กับกูกระตุกข้อมือเล็กให้ลุกขึ้นด้วยความรวดเร็ว แต่ร่างบางก็ยังรั้งไว้ด้วยแรงที่มี

            ดะ เดี๋ยวสิอธิบายก่อน!”


            ร่างสูงถอดหายใจเพื่อระงับความโมโห


            พี่มึงมาลงแข่งคืนนี้ และมันยังไม่มีของมาเดิมพัน สายเจโน่บอกว่าวันนี้มันจะเอามึงมาเป็นของเดิมพัน


            สิ้นเสียงทุ้มคนตัวเล็กก็ชะงัก


            ขะ เขาไม่กล้าทำถึงขนาดนั้นหรอก

            มึงอย่าประมาทเฉินเล่อ คิดว่ากูไม่รู้เรื่องที่มันทำร้ายร่างกายมึงเหรอ


            ร่างสูงมองรอยช้ำที่ปรากฏอยู่ที่ใต้ท้องแขนของร่างบาง วันนี้มันเป็นสีเขียวจาง แต่ก่อนหน้านั้นเป็นเป็นสีม่วงคล้ำขนาดใหญ่นอกเหนือจากนี้ก็ยังมีร่องรอยสีแดงที่ท่อนขาเล็ก และมุมปากของร่างบางที่ยังตกสะเก็ด จีซองโมโหจนเกือบจะซัดพี่ชายของเฉินเล่อ แต่ร่างบางก็ยังกอดเขาไว้พร้อมน้ำตา


            เพราะคำว่าครอบครัวมันค้ำคอ


            แต่มันเห็นมึงเป็นครอบครัวมั้ยล่ะเฉินเล่อ


            จีซอง...

            กูบอกแล้วใช่มั้ยว่ากูจะดูแลมึง ดึงร่างเล็กมากอดจนจมหายเข้าไปในอกกว้าง จีซองโตขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เฉินเล่อยังไม่เคยรู้ ใบหน้าคมกดลงที่ลาดไหล่เล็ก สูดดมกลิ่นหอมที่เป็นของเขามาตั้งนาน และเขาจะไม่ปล่อยไปให้เป็นของใคร

            จนกว่าพ่อมึงจะกลับมาจากจีน กูถึงจะให้มึงกลับบ้าน เข้าใจมั้ย

            อะ อื้อ

            ไปเก็บของกัน


            จูบซับลงที่ขมับบาง ก่อนจะคลายอ้อมแขนลงให้เฉินเล่อไปเก็บของใช้จำเป็น นัยน์ตาคมมองต้นคอขาวของร่างบางที่ระด้วยกลุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนบางเบา


            ทั้งๆ ที่กลิ่นของคนทั้งคู่เกือบจะผสมกันได้แล้วแต่ก็ยังไม่สมบูรณ์เพราะเขายังไม่ได้ทำให้เฉินเล่อเป็นของเขา
อย่างสมบูรณ์


            ความลับที่เขากุมไว้ก็คือ จงเฉินเล่อ เป็นโอเมก้าของเขาไง





B L U E





            เนื่องจากยังเป็นช่วงเย็นค่อนไปทางหัวค่ำทำให้คนยังไม่เต็มสนามเสียเท่าไหร่ รถหรูของบ้านเฉินเล่อถูกจีซองยืมมาใช้ พาเข้าไปจอดในโซน VVIP เพราะเป็นสถานที่อันตรายสำหรับเฉินเล่อ ร่างสูงจำเป็นต้องจับมือเล็กให้เดินตามอยู่ตลอดเวลา


            เสื้อฮู้ดสีดำที่ควรจะอยู่บนตัวของร่างสูงตอนนี้ก็มาอยู่กับร่างเล็กแทน เมื่อต้องเดินผ่านผู้คนที่มากขึ้นทำให้
ต้องดึงคนตัวเล็กมาใกล้ เปลี่ยนไปวางแขนบนไหล่บาง พาเดินขึ้นไปยังห้องรับรองที่พี่ชายตนเปิดไว้ให้


            ห้องกว้างที่มีบาร์ขนาดกลาง กำแพงข้างหนึ่งประดับเป็นกระจกล้วนเพื่อให้มองเห็นสนามแข่งรถขนาดใหญ่


            มาแล้วเหรอเจโน่ที่นั่งรออยู่ในห้องเอ่ยขึ้น คนตัวเล็กโค้งกายให้เล็กน้อย ก่อนจะถูกเชื้อเชิญให้นั่งลงที่โซฟาฝั่งตรงข้าม

            รอก่อน มาร์คกำลังมา ดื่มไรก่อนมั้ยเฉินเล่อ


            ร่างบางส่วนหน้าพลางยกยิ้ม มองเห็นจีซองที่ลุกขึ้นไปคุยโทรศัพท์อยู่ที่มุมห้อง เขาได้กลิ่นความกังวลออกมาจากกายของร่างสูง แต่ยังไม่ทันเอ่ยถามอะไรบานประตูก็เปิดออกอีกครั้ง


            โทษที่ช้า รถจากโรงเรียนไอแฮชมานี่แม่งโคตรติดมาร์คในชุดสูทของรองประธานบริษัทเดินเข้ามาในห้องรับรองพร้อมกับใครอีกคนที่พึ่งไปรับมา

            ทำบ่นรับเสื้อสูทของอีกฝ่ายมาถือ ก่อนจะใช้เป็นอาวุธในการฟาดไปที่ร่างของมาร์ค


            จีซองกดวางสายโทรศัพท์ก่อนจะทรุดกายลงข้างเฉินเล่อ ใบหน้าหวานหันไปมอง ก่อนจะเอ่ยถามขึ้น


            โอเคมั้ย

            ไม่เลย


            ซบลงกับไหล่เล็ก ก่อนจะผงกขึ้นเมื่อพี่ชายคนสนิทอย่างมาร์คเอ่ยขึ้น


            ฝั่งนู้นเป็นไงบ้าง


            เจ้าของผมสีซีดถอนหายใจก่อนจะเอ่ยขึ้นพลางส่งสมาทโฟนเครื่องหรูให้อีกฝ่ายดูรูปจากเหตุการณ์จริงที่
กำลังเกิดขึ้นบริเวณโซนห้องพักของผู้เข้าแข่งขัน


            อาละวาดหนัก บอกว่าผมไปขโมยของเดิมพันมันมาตอบหน้าตายพลางพิงหัวไปกับไหล่เล็กอีกครั้ง


            เจโน่หลุดยิ้ม


            ก็ขโมยมาจริงๆนี่

            เฉินเล่อเป็นของผมอยู่แล้ว

            อ่า เด็กนี่มันแก่แดดชะมัด


            มาร์คถึงกับเอนกายไปกับโซฟาทันทีที่จีซองพูดจบ


            งั้นเดี๋ยวให้แฮชดูแลเฉินเล่อที่นี่ กูจะเพิ่มการ์ดหน้าห้องให้ เผื่อมันเล่นสกปรกเจโน่เอ่ย แต่แฮชานก็พูดขึ้นต่อ

            ทำไมไม่เอาเฉินเล่อไปอยู่คอนโดจีซองเลยวะ

            อันตรายเกินไป ไม่มีใครเฝ้า อย่าลืมว่าวันนี้จีซองมันก็แข่งมาร์คเสริม


            ฝ่ามือหนาเลื่อนมากุมมือเล็กไว้ เฉินเล่อกำลังกลัว คนตัวเล็กสบตาเขานิ่ง ดูอ่อนล้าเหลือเกิน


            กูไม่ปล่อยมึงไปง่ายๆหรอก เลิกทำหน้าโง่แบบนั้นสักที


            มองค้อนร่างสูงที่แหย่เย้าไม่ดูเวลา ก่อนที่ทุกคนจะเดินออกจากห้องไปโดยมีฝ่ามือหนาที่ขยี้กลุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนแผ่วเบาแล้วละออก


            ประตูบานกว้างปิดสนิทลงแล้ว เหลือแค่แฮชานกับเฉินเล่อที่นั่งอยู่ด้วยกัน


            ดื่มอะไรมั้ย เดี๋ยวพี่ชงให้ด้วยความที่ทำอาชีพเป็นคุณครูฝึกสอนอยู่ในโรงเรียนเด็กเล็กทำให้แฮชานมักจะสนิทกับเด็กๆไ ด้ง่าย


            มีนมปั่นใส่คอนเฟลกมั้ยครับ

            ย่าส์ จงเฉินเล่อ

            ล้อเล่นครับ น้ำอัดลมปกติก็ได้ครับ


            ร่างเล็กระบายรอยยิ้ม ก่อนจะรับแก้วน้ำอัดลมมาจากมือแฮชาน ร่างโปร่งเดินอ้อมมานั่งที่โซฟาอีกครั้ง แต่มีขนมติดมือมาด้วย


            เป็นอะไรรึเปล่าร่างโปร่งถามขึ้น เมื่อเห็นเด็กน้อยนั่งนิ่งมาได้สักพักใหญ่

            ผมทำพวกพี่ลำบากรึเปล่าครับเฉินเล่อถาม ในใจต่างรู้สึกผิดที่ทำให้ทุกคนต้องมากังวลเรื่องที่จะเกิดขึ้นกับเขา

            ไม่เลยเฉินเล่อ...ฝ่ามือของแฮชานวางลงบนกลุ่มผมสีน้ำตาลของคนเป็นน้อง เฉินเล่อน่ะ เป็นคนในครอบครัวเราแล้วนะ เพราะงั้นครอบครัวน่ะถ้ามีอะไรก็ต้องช่วยเหลือกัน

            “…”

            จีซองเป็นน้องเล็กของครอบครัว มันรักใคร พวกพี่ก็รักคนนั้นไม่ต่างจากมันหรอก เพราะงั้นอย่าคิดมากเลยนะ


            ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่น กลั้นน้ำตาที่เอ่อคลอออกมาไว้อย่างยากลำบาก


            เป็นกำลังใจให้มันชนะการแข่งขันเถอะ จีซองมันรักเฉินเล่อมากกว่าที่เฉินเล่อคิดไว้อีกนะ





B L U E






            เพราะการเจรจาด้วยปากไม่สำเร็จ ทำให้ต้องเจรจาด้วยกำลัง มุมปากของร่างสูงจึงมีรอยช้ำจางๆ จนโดนไล่มาสงบสติอารมณ์ในห้องพักผู้เข้าแข่งขัน


            บานประตูสีทึบถูกเปิดออก จีซองถอนหายใจ


            ตอนนี้เฉินเล่ออยู่ไหน

            อยู่นี่ไง

            มึง...


            เสียงหวานคุ้นหู พร้อมกับร่างเล็กที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า ยังสวมเสื้อฮู้ดที่เต็มไปด้วยกลิ่นกายของจีซองเช่นเดิม ในมือเล็กๆ ที่โผล่ออกมาจากแขนเสื้อมีหลอดยาทาแก้ฟกช้ำ เขายกยิ้ม ก่อนจะยู่หน้าเมื่อโดนเสียงหวานเอ็ด


            เดี๋ยวนี้ชอบใช้กำลังเหรอ

            เปล่า

            แล้วแผลนี่มาได้ไง

            โอ้ย...เบาๆดิ

            มาต่อยพี่เราก่อนอีก

            ก็พี่มึงปากหมา

            ต่อยไปแล้วเขายอมเปลี่ยนของเดิมพันมั้ยล่ะ

            “…” ร่างสูงเม้มปาก เหลือบมองร่างเล็กที่เชยคางเขาขึ้น ก่อนที่เนื้อยาเย็นๆจะถูกแต้มลงมาอย่างแผ่วเบา

            ต่อให้จีซองจะชนะหรือไม่ชนะยังไงเราก็เป็นของจีซองอยู่แล้ว


            เหมือนความกังวลในใจสลายไปได้เพียงลมปากหวาน


            ปากหวานว่ะ

            แข่งให้เสร็จก่อนค่อยชม

            แข่งเสร็จแล้วจะชิม

            เพ้อเจ้อ...

            โอ้ย!”

           


            ร่างบอบบางโดนดึงตัวให้มาอยู่บนเวทีเนื่องจากเป็นของเดิมพัน ขาเล็กก้าวสั่นๆ ถึงแม้ว่าทุกคนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอย่างไรเสียจีซองก็ต้องชนะ แต่เขาก็อดกังวลไม่ได้อยู่ดี


            ถ้าหากจีซองแพ้ เขาไม่ได้เสียใจที่ตัวเองจะไม่ได้กลับไปกับร่างสูง แต่จะเสียใจที่จีซองต้องเสียรถของตัวเองไป      


             เสียงกระหึ่มของเครื่องยนต์จากแรงสูบช่วงล่าง จังหวะการเผาไหม้ที่เสถียรสมกับเป็นรถแข่งราคาแพง ทำนองเพลงที่เร้าใจพร้อมกับเสียงเชียร์ของผู้ชม 2 ข้างสนาม การแข่งขัน 2 คู่แรกผ่านพ้นไปได้ด้วยดี มาสู่คู่ที่ 3 คือจีซองและพี่ชายของเฉินเล่อ


            เหลือบมองร่างเล็กที่ตอนนี้กำลังเดินลงมาข้างสนาม สบตากันเพียงชั่วครู่ ก่อนที่ร่างสูงจะละมาจดจ้องที่สัญญาณไฟ แต่เสียงเครื่องยนต์คันข้างๆ ที่มันดังจนเขานึกรำคาญอยากให้การแข่งขันนี้มันจบไปเสียสักที


            ใครกันแน่ที่ไม่รู้จักโต



            ถ้ามึงเก่งจริงก็มาแข่งกับกูดิวะ มาแข่งกับกูแล้วเอาไอเด็กนั่นไปดิ ไม่ใช่มาขโมยของเดิมพันของชาวบ้านไป



            น้ำเสียงยียวนที่เขาได้ยินตอนนั้นทำให้ความอดทนของเขาหมดลง จีซองใส่ไม่ยั้ง แล้วบอกให้เจโน่ไปแข่งคู่สุดท้ายแทนตน แล้วจีซองจะแข่งคู่รองสุดท้ายแทน


            เพราะความโมโหแท้ๆ ที่ทำให้จีซองต้องมาแข่งกับเด็กอมมือ


            เสียงพิธีกรของสนามยังเร้าใจอยู่เสมอ ร่างสูงถอนหายใจ ปลายเท้าเหยียบค้างไปที่คันเร่ง ผ่อน และเหยียบหนักสลับกันไปเรื่อยๆ พยายามสงบสติอารมณ์ตัวเองให้นิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฟังเสียงเครื่องยนต์เดิน เสียงล้อรถที่บดเบียดกับพื้นถนน


            จีซองมันเอาจริงแล้วเสียงมาร์คเอ่ยขึ้น พร้อมกับเจโน่ที่กำลังใช้นิ้วมือนวดขมับ แล้วพึมพำออกมาแผ่วเบา

            ไม่ต้องแข่งก็รู้แล้วว่าชนะ



                3 


          2


          1


          GO!!



            เปลี่ยนเกียร์ด้วยความรวดเร็วและปลายเท้าเปลี่ยนเป็นเหยียบคันเร่งจนเข็มวัดรอบเครื่องขึ้นมาเป็นเลขที่สูงขึ้นในระยะเวลาอันสั้น


            มือเล็กยกขึ้นป้องปาก เขาไม่เคยเจอจีซองในโหมดนี้แม้แต่น้อย ไม่สิ เรียกว่าไม่เคยเจอเลยมากกว่า รถของจีซองนำไปแล้ว 1 ช่วงตัว แต่ก็ยังไม่ชะล่าใจ สบโอกาสเบี่ยงตัวรถขึ้นแซงหน้าทันที ก่อนจะเพิ่มความเร็วสูงขึ้นไปอีก


            แทบจะไม่ต้องใส่ทริกลงไปในการแข่งขัน เพราะแค่ตัวรถก็คนละระดับกันแล้ว


            มันออมแรงแฮชานพูดขึ้น

            ออมแรงเหรอครับเสียงหวานเอ่ยถามแผ่วเบา


            ออมแรงตรงไหน การแข่งขันนี่ก็ดูจริงจังจะตาย


            มีแค่พี่ของเฉินเล่อนั่นแหละที่จริงจัง แต่จีซองตอนนี้เหมือนขับรถชมวิวมากกว่า ให้เดาว่าในรถก็น่าจะเปิดเพลงโปรดของมันอยู่ด้วยเจโน่เอ่ยพร้อมรอยยิ้ม

            ไม่ต้องดูแล้ว ขึ้นไปรอมันที่ห้องรับรองเถอะยกแก้วน้ำหวานให้น้องชายตัวเล็ก ก่อนที่แฮชานจะเดินนำเฉินเล่อขึ้นไปยังห้องรับรอง ตามด้วยมาร์คที่เดินประกบด้านหลัง


            เป็นไปตามคาดจีซองชนะได้อย่างสบาย แถมภายในรถก็ยังเป็นเสียงเพลงดังกระหึ่ม


            เขาไม่ได้จอดรอเพื่อรับรางวัล แค่ชะลอแล้วเปิดหน้าต่างแท็กมือกับรุ่นพี่ที่รู้จักก่อนจะวนรถไปยังโรงจอดรถทันที ก่อนจะโทรให้พวกพี่ๆ ที่อยู่ข้างบนพาคนของเขาลงมาเพื่อกลับไปพักผ่อนสักที เพราะมันก็ใกล้จะถึงเวลาเข้านอนของเฉินเล่อแล้ว


            จะกินอะไรก่อนมั้ย


            จีซองถามขึ้นขณะออกตัวรถ ตอนนี้ย้ายคันมาเป็นรถของบ้านเฉินเล่อแทน ซึ่งจีซองก็ยังเป็นคนขับเหมือนเดิม


            เบอร์เกอร์ก็ได้คนตัวเล็กตอบ


            ใบหน้าคมพยักรับ รถหรูเคลื่อนออกไปอย่างไม่เร่งรีบ จีซองตอนนี้ดูแตกต่างจากเด็กตีนผีในสนามอย่างสิ้นเชิง


            นัยน์ตาเรียวรีเหลือบมองคนข้างกายที่ตอนนี้ดูใจเย็น ไม่สิ เรียกว่ากลับมาเป็นปกติมากกว่า เสื้อผ้าถูกเปลี่ยนเป็นเสื้อแขนยาวสบายๆ แทนที่ชุดนักเรียนที่โดนเฉินเล่อพับเก็บเข้ากระเป๋าไปให้


            แขนยาวเอื้อมไปรับเบอร์เกอร์สองชุดที่ผ่านทางหน้าต่าง ส่งให้คนตัวเล็ก ก่อนจะขับรถออกไปทันทีที่ได้รับของครบ


            ใช้เวลาไม่นานก็ถึงคอนโดของร่างสูง ในมือของเฉินเล่อมีแค่ถุงเบอร์เกอร์ของจีซอง ในขณะที่ตัวของจีซองกลับเต็มไปด้วยกระเป๋าเสื้อผ้าของเฉินเล่อ


            นิ้วเล็กจัดการแตะคีย์การ์ดเพื่อขึ้นไปยังชั้นห้องพักของร่างสูง


            จัดว่าเป็นคอนโดหรู จีซองอาศัยอยู่คนเดียว นั่นจึงไม่แปลกว่าทำไมถึงได้มีอิสระได้มากขนาดนี้


            ครอบครัวอยู่ต่างประเทศ ไม่ยอมย้ายตามเพราะอยากอยู่กับเฉินเล่อ นั่นคือสิ่งที่เด็กชายจีซองบอกต่อหน้าทั้ง 2 ครอบครัวในวัย 15 ปี จนตอนนี้ก็ผ่านมา 3 ปีแล้ว เขาอายุ 18 และใกล้จะจบมัธยมปลายแล้ว และเขาก็ยังอยู่กับเฉินเล่อตลอด


            ร่างสูงเปิดห้องนอนให้ร่างบางนำของไปจัด ส่วนตัวเองก็มาจัดการอาบน้ำชำระล้างร่างกายที่เหนื่อยล้ามาตลอดทั้งวัน


            ออกมาด้วยชุดกางเกงขายาวและเสื้อสีขาวดูสบายตัว ผ้าขนหนูผืนเล็กที่ชื้นเพราะซึมซับน้ำวางพาดไว้บนต้นคอ กับในมือที่กำลังถือเบอร์เกอร์


            เดินไปวอแวให้ร่างบางที่พึ่งออกมาจากห้องน้ำสนใจ จนสุดท้ายเฉินเล่อก็ถอนหายใจแล้วดึงร่างสูงไปนั่งที่พื้นหน้าโซฟา แล้วจับเช็ดผมให้เป็นผู้เป็นคน


            ซน


            ร่างเล็กว่าพลางเพิ่มแรงขยี้จนคนตัวสูงครางต่ำในลำคอเพราะขนมปังกับเนื้อยังเต็มปาก


            จะให้เราอยู่ด้วยจนถึงเมื่อไหร่

            ตลอดไป

            อย่าเพ้อเจ้อได้มั้ย

            บ่นว่ะ

            นี่!”

            อื้ออ แค่พ่อมึงกลับมา หรือจนกว่าพี่มึงจะออกไปจากบ้านมึง


            คนตัวสูงเอ่ยพลางกลืนเบอร์เกอร์คำสุดท้าย ยกน้ำขึ้นดื่ม ก่อนจะถูกเฉินเล่อไล่ไปแปรงฟันจะได้ทายาแก้ช้ำบนใบหน้า


            มานั่งนี่


            คนตัวเล็กชี้ไปที่เตียงหลังกว้าง ในพื้นที่ข้างกันให้ร่างสูงนั่งลง


            เอ๊ะ


            ส่งเสียงจิ๊จ๊ะในปากเมื่อกลุ่มผมสีสว่างเลื่อนมาวางบนขาขาวๆ ของร่างเล็กแทน


            เปลือกตาของร่างสูงปิดลงทันที ไม่แม้แต่จะมองใบหน้าหวานที่ขึ้นซับแดงที่ข้างแก้มจางๆ


            เจ็บก็บอกนะ

            จะเบาลง?

            จะแรงขึ้นกว่าเดิม


            สิ้นเสียง นิ้วยาวก็หยิกต้นขาขาวๆไปหนึ่งที จนคนตัวเล็กสะดุ้งเฮือก ฟาดมือลงที่บ่ากว้างเป็นการตอบแทน


            อย่าซน


            เอ่ยว่า ก่อนจะใช้ปลายนิ้วแตะเนื้อยาแล้วไล่บนผิวของร่างสูงเบาๆ ไล่มาจนถึงมุมปากที่เห่อช้ำของร่างสูง


            ก้มมองใบหน้าหล่อระยะประชิดแล้วยังรู้สึกอิจฉาไม่หาย เฉินเล่อรู้จักจีซองตั้งแต่ยังเด็ก ไม่รู้ว่าโตจนหล่อขนาดนี้ได้ยังไง รู้ตัวอีกทีก็สูงนำเขาไปแล้ว แถมตัวยังใหญ่กว่าอีก


            ขยี้กลุ่มผมสีสว่างของร่างสูงเบาๆ จนอีกฝ่ายลืมตา


            มองอะไรคนตัวเล็กถามขึ้น จ้องมองนัยน์ตาสีเข้มอมเทาของอีกฝ่าย

            มองเมีย

            ยังไม่ได้เป็นสักหน่อย

            อยากเป็นมั้ยล่ะ

            จีซอง!”


            ฝ่ามือเล็กหมายจะตีลงบนไหล่กว้างอีกรอบ แต่ร่างสูงก็จับไว้ได้ทัน ลุกขึ้นด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะเป็นฝ่ายทาบทับร่างบอบบางลงกับพื้นเตียงกว้างแทน


            นี่!...”

            อยากจูบว่ะ

            ปากเป็นแผล ไม่เอา ไม่จูบ

            จูบได้ 

            ...ฮื้อออ


            ริมฝีปากหยักได้รูปกดลงบนริมฝีปากอิ่มอย่างไม่รีบร้อน ค่อยๆบดเบียด ละเลียดชิมอย่างของหวาน เนื้อกายนุ่มนิ่มของร่างเล็กที่ฝ่ามือหนากำลังลากผ่าน


            เอนเอียงใบหน้า ก่อนจะสอดแขนข้างหนึ่งรองท้ายทอยของร่างบาง รั้งกรอบหน้าหวานให้สูงขึ้น เพิ่มน้ำหนักในการบดเบียดมากขึ้น


            ลิดรอนลมหายใจของร่างเล็กอย่างเชื่องช้า ให้หอบคราง แล้วค่อยๆ แทรกปลายลิ้น เร่าร้อนมากขึ้น เผลอไผลยกสองแขนเล็กโอบรอบคอของร่างสูง


            ผละออกมากดจูบที่ต้นคอ จุดต้องห้ามที่ทำให้คนตัวเล็กสะดุ้งเฮือก เกร็งขึ้นอย่างไร้สาเหตุ อาจเพราะอีกฝ่ายเป็นอัลฟ่าที่เก็บตัว ไม่ค่อยแสดงอำนาจมากมายทั้งๆ ที่สามารถยืนอยู่เหนือใครได้อีกหลายคน


            เฉินเล่อชอบจีซอง


            ชอบที่จีซองเป็นอัลฟ่าของเขาเพียงผู้เดียว


            แต่ไม่เคยใช้ความน่าเกรงขามนั่นเอาเปรียบเขาแม้แต่น้อย


            ซ้ำยังยินยอมและตามใจ ช่วยเฉินเล่อเก็บความลับที่ตัวเองเป็นโอเมก้าเป็นอย่างดี


            ยังไม่เคยกัดเฉินเล่อเลยสักครั้ง อดทนเฝ้ารอในวันที่พร้อม


            จะไม่ให้เขารักจีซองได้อย่างไร


            สถานะไม่มีชื่อเรียก แต่แหวนเงินบนนิ้วนางข้างขวาของคนทั้งคู่สามารถบ่งบอกความสัมพันธ์ได้เป็นอย่างดี


            ผละออกมาจูบซ้ำๆจนริมฝีปากอิ่มเห่อแดง กดปลายจมูกลงที่ข้างแก้มใส เฉินเล่อครางหวิว ปลายนิ้วยาวที่ลัดเลาะเข้ามาบนผิวกายใต้ร่มผ้าทำให้หลุดเสียงน่าอาย


            เฉินเล่อ


            ...หื้ม


            ทำไมวันนี้น่าเย


            นี่!”


            ตบดังแปะที่ข้างแก้มของร่างสูง จีซองหันกลับมาจูบที่ฝ่ามือของร่างบางเบาๆ


            ล้อเล่น แต่คิดจริงๆ


            เดี๋ยวเถอะ


            กอดกูหน่อย


            อื้อออ


            ครางรับก่อนจะใช้สองแขนโอบรอบบ่ากว้าง จีซองขยับตัวมาที่ต้นคอของเฉินเล่อ ซุกตัวเข้าเซฟโซน พร้อมกับวงแขนยาวที่โอบรอบเอวของคนตัวเล็ก


            จีซองชอบทุกอย่างที่เป็นเฉินเล่อ


            กลิ่นกายหอมๆของร่างบางที่ผสมกับกลิ่นอัลฟ่าในตัวเขา


            เสียงเล็กๆที่มักจะคอยใช้ดึงสติเขาเสมอ


            ความสบายใจทุกครั้งที่ได้อยู่ด้วยกัน


            แต่ที่เขาชอบมากที่สุด


            คือชอบตัวเองเวลาที่ได้อยู่กับเฉินเล่อ



B L U E
           
           

Now playing
I Like Me Better – Lauv



เห็นเด็กๆเขารักกันแม่ก็ดีใจ ฮรุก /กุมใจ

จะตามไปอ่านรีแอคในแท็กนี้นะควัฟ ;__;)/
#อมกซองเล่อ

           

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม