Shotgun #sungle
os
#sungle
Jisung
x Chenle ft. Lujung
ลูกซอง = จีซอง
ลินิน,ลิน = เฉินเล่อ
จอมทัพ,นิ่ม = จองอู
ลูคัสก็ยังเป็นลูคัส
Shotgun
“อยู่ไหน” เสียงเล็กๆที่กรอกลงโทรศัพท์ด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่นทำให้ปลายสายยกยิ้ม
[รีบเหรอ] เสียงทุ้มที่ตอบกลับมาทำให้ริมฝีปากอิ่มเบะลงเล็กน้อย
“ฉันถือของรอนายอยู่จะ
10 นาทีแล้วนะ เมื่อไหร่จะถึง”
[รีบเหรอป้า]
“เด็กนี่! ฉันอายุเยอะกว่าพี่นายก็ใช่ว่าจะมาเรียกฉันป้านะ แล้วฉันก็เป็นผู้-”
“เนี่ย
บ่นเยอะขนาดนี้ไงถึงเรียกป้า”
“ลูกซอง!!”
เพราะเสียงทุ้มกับเงาของร่างสูงที่ทาบทับทำให้มือเล็กๆ
เกือบจะหันไปฟาดใส่ไหล่กว้างของเด็กหนุ่มร่างสูง
“ป้า!”
“ย้า!”
“โหไม่เจอกันแป๊บเดียวเอง
อยากเป็นย่าเลยเว้ย” น้ำเสียงทะเล้นกับใบหน้าหล่อของร่างสูงที่ยื่นเข้ามาทำให้ร่างเล็กต้องยกฝ่ามือเข้ามาคั่นกลางแล้วดันปลายคางของหน้าหล่อๆ
นั่นออกไป
“อย่ามารุ่มร่าม!
ช่วยถือของด้วย หนักจะตายแล้ว”
“แก่แล้วก็งี้”
“นี่ถ้ายังไม่หุบปากก็เตรียมตัวย้ายของออกไปจากห้องฉันได้เลยนะ”
“ดุจั๊ง~”
ชายร่างเล็กยกค้อนวงโต
แต่เด็กหนุ่มร่างสูงกลับยกยิ้ม มือเล็กๆที่เลี้ยงเขามาตั้งแต่เด็กคิดว่าจะกลัวรึไง
ตอนนี้มือของลูกซองน่ะใหญ่กว่าลินินเป็นไหนๆ
“กลับกัน”
ว่าพลางก็ส่งไปกำข้อมือเล็กออกแรงดึงให้ร่างบอบบางของคนเป็นพี่เดินตามไปยังลานจอดรถของห้างสรรพสินค้า
นัยน์ตาเรียวรีของคนที่อายุมากกว่าจดจ้องแผ่นหลังกว้างของเด็กหนุ่มตรงหน้า
มันโตขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่นะ
คงเพราะเจอมาตั้งแต่มันอยู่ประถม
มัธยมต้น มัธยมปลาย เลยไม่ค่อยได้สังเกตเท่าไหร่
จนกระทั่งมันขึ้นมหาลัยและต้องย้ายไปเรียนต่อที่อังกฤษอีก 2 ปี เท่านั้นแหละ
เจ้าเด็กหน้าลูกเจี๊ยบที่เขาเดินส่งมันไปโรงเรียนอยู่ตั้งนานก็โตเป็นไก่ชนอย่างสมบูรณ์แบบ
ตอนนี้อยู่ในช่วงปิดภาคเรียน
ประจวบกับพี่ชายของลูกซองกำลังจะแต่งงานทำให้ลูกซองต้องบินกลับมาที่ไทย
แล้วก็ต้องมาพักกับลินิน
ที่เป็นพี่ชายข้างบ้านที่อายุห่างกัน 8 ปี
ถามว่าทำไมมันไม่ไปพักกับครอบครัวมัน
ลินินก็ไม่รู้เหมือนกัน
หน้าไก่คมๆ ของมันก็ยิ้มแล้วบอกว่า
“คอนโดพี่มันติดสนามบินอ่ะ
สะดวกดี”
เออ ก็แล้วแต่
ก้านนิ้วยาวกดปลดล็อครถ
ก่อนจะเปิดประตูเพื่อวางของใช้บางส่วนสำหรับตลอด 1
สัปดาห์ที่เขาจะมาพักในคอนโดของลินิน
“ซื้อโดนัทมาอ่ะ
จะกินรองท้องก่อนมั้ย” คนตัวเล็กเอ่ยถามคนข้างกายที่กำลังเปลี่ยนเกียร์รถเมื่อสัญญาณไฟกลายเป็นสีเขียวสว่าง
“ก็ได้ ป้อนนะ”
“เออ”
พี่ชายข้างบ้านวัย 28
ปีขานรับ ก่อนจะเปิดกล่องโดนัทบนตัก
หยิบชิ้นที่คิดว่าน่าจะเป็นรสโปรดของไอเด็กเปรต ฉีกเป็นคำเล็กแล้วส่งเข้าปากอีกฝ่าย
ลินินรู้ดีว่าเด็กนี่มันขับรถมือเดียวได้
แต่ตอนนี้มันกลับตั้งใจจับพวงมาลัยสองมืออย่างขยันขันแข็ง
“อื้อออ”
“โทษ”
เผลอแกล้งยัดเข้าริมฝีปากหยักได้รูปจนอีกฝ่ายร้องประท้วงในลำคอ
ลินินยกยิ้มแล้วหยิบชิ้นที่เหลือเข้าปากของตัวเอง
“อ้า”
“แปบ”
เอ่ยบอกก่อนจะฉีกคำถัดไปให้เด็กมันกัด
กลิ่นน้ำตาลเคลือบกับเนื้อแป้งนุ่มนิ่มทำให้ลูกซองเผลอกัดเข้าคำโต
“โอ้ย กัดนิ้วทำไม!”
“โทษ ไม่เห็น”
ยกยิ้ม
ก่อนจะตั้งใจเคี้ยวโดนัทคำโตนั่น
ไม่นานนักก็หักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าคอนโดหรูของพี่ชายตัวเล็ก
ทั้งคู่ลงมาจากรถโดยที่ลูกซองเป็นคนถือของทั้งหมด
เดินตามเจ้าของห้องเข้าไปยังลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังห้องพัก
“น้ำป้ะ”
“อือ”
ขานรับก่อนจะอ้าปากงับหลอดที่ร่างเล็กนำมาจ่อ
นัยน์ตาคมสำรวจใบหน้าหวานที่อยู่ใกล้ ดูตั้งใจให้เขาดูดน้ำเสียเหลือเกิน
“มองไร”
“มองป้า อุก!”
โดนชกเข้าที่ไหล่จนต้องผละออกมายืนไกลๆ
ตัวเล็กแต่ดุชิบหาย ไม่แปลกใจเลยทำไมยังโสดอยู่แบบนี้
แต่ก็ดีละ
อะไรๆ
มันจะได้ง่ายๆ หน่อย
“ไปไหนอ่ะ” เด็กหนุ่มร่างสูงเอ่ยขึ้นพลางเดินเช็ดผมสีสว่างที่เปียกลู่ไปกับกรอบหน้า
“จะลงไปเอาของ”
ลินินเดินไปสวมรองเท้าแตะแต่ก็ต้องถอดออกแล้วเดินเข้าห้องไปหยิบที่เป่าผมมายื่นให้ลูกซอง
“เป่าให้แห้งก่อนที่ฉันจะขึ้นมา”
สิ้นเสียงคนตัวเล็กก็เดินออกไปจากห้องทันที
ทิ้งเด็กหนุ่มให้อ้าปากร้อง ‘โห’ ก่อนจะหาปลั๊กเสียบเพื่อเป่ากลุ่มผมของตัวเองให้ทัน
ติ้ด!
เสียงแตะของคีย์การ์ดเข้ากับแผ่นแม่เหล็กไฟฟ้าหน้าประตูเรียกรั้งความสนใจของเด็กหนุ่มไปที่หน้าประตู
ก่อนจะต้องลุกขึ้นไปช่วยคนตัวเล็กกำลังใช้ปลายเท้าดันประตูบานกว้างให้ปิดลง
“อะไรอ่ะ”
“ชุดสูทของนายกับฉัน”
สิ้นเสียงหวานเด็กหนุ่มร่างสูงก็หันไปมองคนตัวเล็กทันที
“โอป้ะ”
“ทำไมต้องไม่โอ”
“นี่อุส่าบินกลับมาดามใจเลยนะ”
“หุบปากไปเลย
ผมแห้งรึยัง”
“ยัง เป่าให้หน่อย”
“ไปนั่งไป”
เอ่ยปากไล่เด็กหนุ่มไปนั่งที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งขนาดกลาง
ก่อนจะนำชุดสูทที่พึ่งได้มาเข้าไปเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้า
พลางเดินกลับมาเปิดไดร์เป่าผม
ฝ่ามือเล็กทดสอบความร้อนกับแรงลมเพียงครู่หนึ่ง
แทรกปลายนิ้วไปกับกลุ่มผมสีสว่างของลูกซอง กว่าจะแห้งก็กลายเป็นไก่ขนฟู
แอบดึงให้เด็กมันร้อง แต่ก็ถูกมือใหญ่นั่นจับมือเล็กดึงมาด้านหน้า
“อย่าดึง!”
“อย่าแกล้ง!”
ใบหน้าคมเงยขึ้นพร้อมๆกับลินินที่ก้มหน้าลงมา
“ไม่เล่น”
“ก็ไม่ได้เล่น”
“ปล่อย”
“ไม่ปล่อย”
“ลูกซอง!”
“ลินิน!”
ก่อนที่ร่างเล็กจะอาศัยจังหวะนั้นในการรัดคอเด็กหนุ่มจนไอหน้าดำหน้าแดง
“อ็อกกกก ลินินนนน
ป่อยยยยซองงงงง แค่กๆๆ”
Shotgun
นาฬิกาโรเล็กซ์ถูกสวมเข้าที่ข้อมือหนา
กลุ่มผมสีสว่างที่ถูกแต่งเสริมให้ใบหน้าหล่อคมขึ้น เรือนกายสูงของชายหนุ่มวัย 20
ปี แต่ก็ยังดูเด็กน้อยในสายตาของลินินที่กำลังเดินไปหยิบสูทสีเทาเข้มให้
“เรากำลังจะสาย”
“รีบไปเขาก็ไม่สนใจเราหรอก”
เอ่ยบอกอย่างไม่เร่งรีบ
พลางรับสูทมาจากมือเล็ก
“พี่ชายนายต้องการกำลังใจ”
“ลินินต่างหากที่อยากได้กำลังใจ”
“ซอง” เสียงหวานเข้มขึ้นจนร่างสูงเผลอถอนลมหายใจ
“ไม่อยากให้ลินินไปด้วยเลย”
ทรุดกายนั่งลงบนโต๊ะเครื่องแป้งขนาดกลางนั่น
ก่อนจะจ้องมองลินินที่ยืนใส่ต่างหูสีเงินอยู่ตรงหน้า
“เงียบน่า ลุกขึ้นมา”
ฝ่ามือของร่างบางฉวยดึงคนตัวสูง
แต่อีกฝ่ายกลับดึงร่างบางเข้าไปใกล้
“มองตาซอง”
“อะไรเล่า” เสสายตาไปด้านข้าง พยายามดึงมือออกแต่เด็กตัวโตกลับไม่ยอม
“เลิกชอบมันได้แล้วมั้ง”
“ซอง” คราวนี้ลินินสบเข้าที่นัยน์ตาคมอย่างไม่มีหลีกเลี่ยง
ลูกซองเห็นแววสั่นไหวก่อนจะเลือนหายไปในชั่วครู่ที่จ้องมอง
“ฉันแค่จะไปแสดงความยินดีกับพี่ชายของนาย
ไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น นี่มันเป็นงานแต่งของพี่นายนะ”
“ไม่ได้คิดหรือพยายามไม่คิดกันแน่”
“อย่ายัดเยียดได้ปะ”
“คิดว่าซองมองไม่ออกเหรอ”
ลูกซองถามเสียงเข้ม
เขารู้ดีว่าลินินฝืนแค่ไหนที่ต้องไปงานแต่งงานของแฟนเก่าตัวเอง
แฟนเก่าที่ว่านั่นก็คือพี่ชายของลูกซอง ที่กำลังจะมีงานเลี้ยงแต่งงานในคืนนี้
ตามตรงว่าลูกซองโกรธแม่มากที่ทำให้เขาเกิดช้าไป
8 ปี ทำให้ลินินได้แต่มองเขาเป็นน้อง
มองข้ามความรู้สึกของเด็กหนุ่มในวัยเด็กไปอย่างใจร้าย
แต่แล้วไง
ตอนนี้ก็ตามตื้อมาเกือบ 6 ปี หักลบที่ไปอยู่อังกฤษก็เหลือ 4 ปี
ร่างสูงรู้ดีว่าถึงแม้ตอนนี้ตัวของลินินจะยังอยู่กับเขา
แต่ก็ใช่ว่าจะได้ใจมาเต็มร้อย ยังไงแฟนเก่ามันก็ตัดกันไม่ขาด
ลินินก็รักพี่ชายเขามากขนาดไหน ให้ตัดใจตอนเลิกกันก็ยังพอไหว
แต่โดนเชิญไปงานแต่งนี่เขาก็ยังรู้สึกว่าพี่ชายเขาใจร้ายไม่น้อยเลย
“ซองจะให้พี่คิดได้ยังไง
นี่มันงานแต่งพี่ซองนะเว้ย ไม่กลัวนรกกินหัวพี่รึไง” คนตัวเล็กว่าขำๆ
แต่ร่างสูงกลับไม่ยิ้มตาม
“กลัวลินินไม่ไหว”
“จะไม่ไหวได้ยังไง”
มือเล็กยกขึ้นมาประคองกรอบหน้าหล่อของร่างสูง “มีซองอยู่ทั้งคน”
“ลินินแม่ง”
“ไปเร็วไอหนุ่ม ลุก!”
Shotgun
งานแต่งงานถูกจัดขึ้นตามฐานะของคู่สมรส
แขกที่ถูกเชิญมาอย่างมากมายเพราะธุรกิจขนาดใหญ่ของครอบครัว
ทั้งคู่เลือกที่จะมาฝากท้องกับอาหารภายในงาน ซึ่งก็เป็นไปตามที่คาดหวัง รสชาติอาหารที่พี่ชายของลูกซองคัดสรรมานั้นรสชาติดีเยี่ยม
“กินอันนี้ยัง”
“กินแล้ว”
“ยังไม่ได้กินอ่ะ
ป้อนหน่อย”
“อ้าปาก”
นิ้วเล็กจัดการดันขนมชิ้นน้อยเข้าปากของร่างสูง ก่อนที่ทั้งคู่จะได้ยินเสียงพิธีกรของงาน
จึงละออกจากโซนอาหารไปยังเวทีกว้าง เป็นช่วงเวลาที่ให้เจ้าสาวได้โยนช่อดอกไม้
ดูน่าตื่นเต้นสำหรับสาวๆที่อยากจะมีชีวิตคู่เหมือนคนอื่น
“ไม่เข้าไปรับกับเขาด้วยเหรอ”
ร่างสูงเอ่ยพลางชี้ไปยังพื้นที่ที่อัดแน่นไปด้วยผู้คนนั่น
“ยังไงก็ต้องได้แต่งอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”
เงยหน้ามองร่างสูงข้างกายจนอีกฝ่ายหน้าขึ้นสี
แกล้งทำเป็นไอค่อกแค่กหลบสายตาของร่างเล็ก
และริมฝีปากอิ่มที่กำลังยกยิ้ม
“นี่กดดัน?”
“ยังไม่ได้บอกสักหน่อยว่าจะแต่งกับคนไหน”
“กล้ามีคนอื่นรึไง”
“แถวนี้มันเด็ก”
“แต่ก็โตพอจะเป็นผัวพี่ละกัน”
“ลูกซอง! ...เฮ้ย!”
จู่ๆช่อดอกไม้สดก็ลอยมาตรงหน้า
ทั้งสองต่างเอื้อมมือไปคว้าช่อสีขาวนั่นทันที แสงไฟฉายมาที่คนทั้งคู่
พร้อมกับเสียงโห่แซว ไม่เว้นแม้แต่กระทั่งเจ้าสาวและเจ้าบ่าวที่กำลังมองมาทางนี้เช่นกัน
หลังจากเขินอายกันไปสักพักใหญ่
ลูกซองก็ได้พาลินินเข้ไปถ่ายรูปกับพี่ชายของตน
จอมทัพ ยกยิ้มที่เห็นน้องชายของตัวเองที่มาพร้อมกับลินิน
“คิดถึงนิ่มว่ะ”
ร่างสูงสวมกอดพี่ชายตัวเองที่วันนี้กลายเป็นเจ้าสาวสมใจหลังจากเตรียมงานมาเกือบครึ่งปี
“เลิกเรียกชื่อนี้ได้แล้ว”
แอบทุบแผ่นหลังกว้างของน้องชายตัวโต ก่อนจะระบายรอยยิ้มแล้วผละออกมา
“ใช่สิ้ ไม่ใช่ลูคัสนี่”
เจ้าบ่าวด้านข้างเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจเมื่อถูกอ้างชื่อ
ก่อนจะยกยิ้มเมื่อเห็นลูกซองเอ่ยแซว
“ขอกอดหน่อย” จอมทัพเอ่ยขึ้นก่อนที่ร่างเล็กของลินินจะสวมกอดแผ่วเบา
แต่เสียงกระซิบของคนทั้งคู่ที่ลูกซองไม่ได้ยินทำให้ร่างสูงขมวดคิ้ว
“ปล่อยได้ละมั้ง”
“ไอ่เด็กขี้หวง
นี่พี่นะเว้ย”
“คัส เอานิ่มออกไปสักที”
ทั้ง 3 ยกยิ้มเมื่อเห็นเด็กขี้หวงแผลงฤทธิ์
เอ่ยร่ำลาเป็นกำลังใจให้กับคืนเข้าหอ ก่อนที่ทั้งสองจะขอตัวออกมา
ในฝ่ามือเล็กยังมีช่อดอกไม้สีขาวสะอาด
กระชับแน่นเมื่อขึ้นมาบนรถคันหรูที่ยังมีสารถีร่างสูงกำลังถอยรถอยู่
“กินเหล้าได้ยัง”
ร่างบางถามขึ้นเมื่อคนตัวสูงขับออกมาที่ถนนใหญ่
“จำไม่ได้รึไงว่าตัวเองเป็นคนสอนผมกินอ่ะ”
“เออเน๊อะ ลืม”
“อยากกิน?”
“อยากเมา”
Shotgun
ด้วยความเป็นห่วงสวัสดิภาพในการขับขี่ทำให้ทั้งคู่เลือกที่จะไปซื้อแอลกอฮอล์ในมินิมาร์ทแล้วขึ้นมาดื่มบนห้องกันสองคน
ร่างสูงปลดเสื้อสูทออกพร้อมกับปลดกระดุมออกจากรังที่ต้นคอ
2 เม็ด พับแขนเสื้อเชิ้ตสีขาวขึ้นมาที่ข้อศอก
เดินไปที่เคาน์เตอร์เพื่อเตรียมเครื่องดื่ม
คนตัวเล็กที่นำสูทเข้าไปเก็บในห้องก็ต้องยกยิ้มเมื่อร่างสูงชูแก้วเหล้าในมือ
ทั้งคู่เลือกที่จะดื่มด่ำไปกับรสน้ำเมานั่นตัวเลขที่บ่งบอกอายุไม่ได้หมายความว่าช่วงวัยของทั้งคู่จะต่างกันมากนัก
เลือกที่จะเล่าแชร์ประสบการณ์ตลอด
2 ปีที่ห่างหายกันไป
ลินินก็ได้ทำงานในบริษัทค่ายเพลงยักษ์ใหญ่
ส่วนลูกซองกับการเรียนก็กำลังไปได้ด้วยดี คาดไว้เล่นๆ ว่าหลังจากเรียนจบก็คงกลับมาฝึกงานกับบริษัทของที่บ้าน
แล้วจึงค่อยเข้าไปเป็นหนึ่งในผู้บริหารตามที่ทางบ้านวางแผนไว้ให้
ลูกเจี๊ยบของลินินนี่โตเป็นไก่ชนที่เก่งจริงๆ
เลยนะ
“ลิน” ร่างสูงเอ่ยขึ้น ดึงความสนใจของร่างเล็กให้ออกจากทีวีได้ รู้สึกแปลกไม่น้อยเมื่อถูกเรียกด้วยชื่อที่ใช้ในสมัยเด็ก
“หื้อ”
“ในงานอ่ะ”
“ว่า”
“นิ่มกระซิบอะไรกับลิน”
สิ้นเสียงของร่างสูงคนตัวเล็กก็หลุดยิ้ม
“เรื่องของผู้ใหญ่
ไม่เกี่ยวกับเด็ก”
ลูกซองที่ฝังใจกับคำว่าเด็กผนวกเข้ากับฤทธิ์น้ำเมาจนทิ้งศีรษะลงกับไหล่เล็กอย่างแรง
“หนักกก”
“ไม่เด็กแล้ว บอกหน่อย”
“ถ้าโตแล้วเขาไม่อยากรู้เรื่องของคนอื่นหรอก”
“ลินนน บอกหน่อย”
“เมาแล้ว”
“ไม่เมา ไม่เด็กด้วย”
หันมามองใบหน้าหล่อที่คลอเคลียอยู่ตรงหัวไหล่ลินินก็หลุดยิ้ม
“เด็ก”
“ไม่เด็ก”
”เด็-”
ริมฝีปากหยักได้รูปเลื่อนมากดจูบที่ริมฝีปากอิ่ม
หมายให้ร่างเล็กหยุดพูดคำต้องห้ามแสนน่ารำคาญนั่นเสียที
ความนุ่มนิ่มและหอมหวานทำให้ร่างสูงเคลื่อนกายเข้าไปใกล้ขึ้น
ปรับเอียงองศาจนร่างบางครางต่ำในลำคอ
ผละออกก่อนจะกดซ้ำย้ำจนมือเล็กต้องตีเข้าที่ไหล่กว้าง
“พะ พอแล้ว”
“นิ่มบอกว่าไร”
“เอาหน้าออกไปก่อน”
“ไม่ จนกว่าจะบอก”
“ซอง!”
“จูบนะ”
“ฮื้ออ บอกแล้วๆๆ”
เด็กนี่มันร้าย!
ฝ่ามือเล็กยกขึ้นมาคั่นกลางก่อนจะดันปลายคางของเด็กหนุ่มออกไป
“จอมทัพบอกว่า”
“ว่า”
“ว่า...ฝากดูแลซองด้วย”
คนตัวสูงหลุดยิ้ม
จูบเบาๆ ลงที่ปลายนิ้วของร่างบาง
“น่ารักว่ะ ลาออกมาแต่งก่อนได้มั้ย
ค่อยกลับไปเรียนต่อ”
“เพ้อเจ้อ
ให้โตก่อนแล้วค่อยพูด”
“ในงานก็บอกไปแล้ว”
แค่พูดถึงในงานแก้มของร่างบางก็เห่อแดง
“อยากเป็นผัวพี่จะแย่แล้ว”
“ลูกซองงงงงง!!!!!!!!!!!!!”
“สมยอมสักทีจะตั้งใจเรียนเลย”
“เด็กบ้า!”
ร่างสูงยกยิ้ม
ก่อนจะรั้งต้นคอของพี่ชายข้างบ้านเข้ามาใกล้ บดเบียดริมฝีปากจนร่างบางครางหวิว
ไอเด็กนี่มันไปฝึกที่ไหนมา
หะ...หายใจไม่ทันแล้ว!
“อึก…”
ความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นทำให้นัยน์ตาเรียวรีเอ่อคลอด้วยน้ำตา
ริมฝีปากอิ่มที่เริ่มช้ำ ถูกขบกัดย้ำๆราวกับเป็นขนมรสหวาน
น้ำเมาที่เคล้าคลอไปกับรสจูบทำให้ความรู้สึกเริ่มพร่าเลือน
รู้ตัวอีกทีก็ได้แต่บอกให้เด็กนั่นหยุดทั้งที่แทบจะไร้เรี่ยวแรง
“ไปเรียนให้จบก่อนไป”
“ตอนนั้นก็ 30
แล้วนะป้า”
“รอมาตั้งแต่เกิดแล้ว
รออีก 2 ปีคงไม่เป็นไรหรอก”
“ไม่ยอมเสียตัวให้ซองก่อนจริงดิ
เด็ดนาาา”
“ลูกซองงงงง!!”
Shotgun
แต่งให้เด็กมัน 20
นี่ดีอย่างนี้นี่เอง
ฝากสกรีมหน่อยนะคับ
หยักลู้ว่าเปงงัยมั่ง ;__;)/
#อมกซองเล่อ
ซองร้ายกาจมาก555555
ตอบลบ